วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าวสัปปะรด สวยสดหาดเขาถ้ำ งามล้ำน้ำใจ




ตลาดโต้รุ่งหัวหิน


ตลาดหัวหิน นับเป็นสีสันยามราตรีของหัวหิน ทุกเย็นมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติแวะเวียนไปเสมอเพราะเป็นแหล่งรวมแผงอาหารนานาชนิด ทั้งอาหารไทย อาหารทะเล ขนมไทย โรตีแขก ปรุงสดๆ ให้เลือกสรร นอกจากนั้นยังมีของที่ระลึกจำหน่ายมากมายอีกด้วย
ตลาดที่มีชื่อเสียงของหัวหิน และทั่วโลก อยู่ถัดไปไม่ไกลจากตลาดฉัตรไชย เป็นที่คุ้นเคยดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย  เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองจากทั่วประเทศ อาหารไทย เช่น ผัดไทย หอยทอด กระเพาะปลา หมูสะเต๊ะ ซีฟูด อาหารหวานก็มี โรตี ไอศกรีม ขนมไทยผลไม้ นอกจากนี้ยังมีขายเสื้อผ้า กระเป๋า นิตยสาร ซีดีหนัง งานหัตกรรม ภาพวาด โคมไฟ  เป็นสีสันยามราตรีของหัวหิน  ประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวัน บรรดาแม่ค้าจะเริ่มทยอยออกมาตั้งร้านรวงกันเป็นแถว ซึ่งกว่าจะครบทุกร้านก็ราว ๆ 5 โมงครึ่ง ก็จะเปิดขายเรื่อยไปจนตลาดวายประมาณ 5 ทุ่ม 
นักท่องเที่ยวแทบทุกคนไม่ว่าชาวไทย หรือ ต่างชาติ ที่เดินทางมาเยือนหัวหิน ต้องมาทานอาหารเย็น ขนมหวาน และจับจ่ายซื้อของที่ระลึกมากมาย ที่มีให้เลือกทานนับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้ว่ามาหัวหินแล้วต้องมาเดินที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน


เพลินวาน หัวหิน  




หัวหินมีน้ำทะเล ชายหาด สวย ๆ หาดทรายที่ทอดยาว ยังมีสถานที่ที่ซึ่งให้คุณระลึกถึงความหลัง วันวาน อันแสนหวาน ความทรงจำที่คุณไม่ควรพลาด กับสถานที่ท่องเที่ยว เพลินวาน หัวหิน เปิดได้ซักระยะหนึ่ง แต่ด้วยชื่อที่ติดปาก ความประทับใจของผู้ที่เคยแวะเที่ยวที่เพลินวาน ต่างบอกกันปากต่อปากว่า เพลินวาน หัวหิน น่าเที่ยว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณ..ไม่ควรพลาด!!



 

"เพลิดเพลิน กับวันวาน อันแสนอบอุ่น .... เพลินวาน หัวหิน"
"หัวหิน" นับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จากแต่เดิมที่เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง และได้ถูกเปลี่ยนแปลงจนกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนติดทะเล ที่ติดอันดับความนิยมของประเทศในตอนนี้ ปัจจุบัน "หัวหิน" มีที่พัก รีสอร์ท และโรงแรมชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท ของชาวบ้านเอง หรือรีสอร์ท ที่เป็นระดับห้าดาว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเสน่ห์ของหัวหินยังคงเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดนักท่อง เที่ยวให้มาพักผ่อนตลอดทั้งปี

  
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน



รัชกาลที่ 6 โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" ลักษณะเป็นพระตำหนักไม้สองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด "พระที่นั่งสุนทรพิมาน" เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา "พระที่นั่งพิศาลสาคร" เป็นที่ประทับของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
          เป็นหมู่พระที่นั่งตรงกลางประกอบด้วยห้องต่างๆ สำหรับสำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับใช้ใกล้ชิด ห้องทรงพระอักษร และ "พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ " เป็นอาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่างๆ และเป็นโรงละคร ซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และวิวาห์พระสมุทร 



พระราชวังบ้านปืน



พระราชวังบ้านปืน หรือ พระรามราชนิเวศน์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นพระราชนิเวศน์ สำหรับประทับแรมในฤดูฝน ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อที่จากราษฎร และให้จอมพลเรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้า บริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นแม่กองจัดการก่อสร้าง สร้างแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ออกแบบโดยมิสเตอร์คาลเดอริง ชาวเยอรมัน
          เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2452 แล้วเสร็จในปี  พ.ศ. 2459 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า พระที่นั่งศรเพ็ชรปราสาท และทรงเปลี่ยนเป็น"พระรามราชนิเวศน์" ปี พ.ศ. 2461 ใช้เป็นที่รับรองแขกเมือง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนผู้กำกับลูกเสือ โรงเรียนฝึกหัดครูเกษตรกรรม โรงเรียนประชาบาลประจำตำบล ฯลฯ 


สถานีรถไฟหัวหิน


เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดของไทย สิ่ง ที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้ คือ พลับพลาในแบบสถาปัตยกรรมไทยเด่นสะดุดตา ซึ่งได้ย้ายมาจากพระราชวังสนามจันทน์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 มีความสวยงามทางด้านสถาปัตย์และศิลป์ ซึ่งใครที่เห็นจะรู้สึกประทับใจ สถานียังคงเปิดให้บริการจวบจนทุกวันนี้

 



หาดหัวหิน 


ชายหาดอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวพัก ตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งแรกของเมืองไทย ด้วยน้ำทะเลใส ทรายสะอาด บรรยากาศดี จึงเป็นที่ใฝ่ฝัน และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานานทุกยุคทุกสมัย 





อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด


          ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกิ่งอำเภอสามร้อยยอด ตามตำนานเล่าว่าเดิมเคยเป็นทะเลที่มีเกาะแก่งมากมาย เรือสำเภาจีนเดินทางค้าขายผ่านมาและเกิดอัปปางลง ลูกเรือว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่งรอดชีวิต 300 คน จึงตั้งชื่อว่า "เขาสามร้อยรอด" แล้วเพี้ยนมาเป็น "เขาสามร้อยยอด" ซึ่งพ้องกับลักษณะ 4 ภูมิประเทศ ที่เป็นเขาหินปูนมากมายนับไม่ถ้วนนั่นเอง เป็นอุทยานแห่งชาติทาง














วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

จังหวัดอุดรธานี


น้ำตกจากสันภูพาน  อุทยานแห่งธรรมะ 
อารยธรรม 5,000 ปี  ธานีผ้าหมี่ขิด 
แดนเนรมิตหนองประจักษ์
เลิศลักษณ์กล้วยไม้หอมอุดรชันไฌน์



ศาลพระหลักเมืองอุดรธานี

          ศาลหลักเมืองอุดรธานี ตั้งอยู่บริเวณทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นสถานที่สำคัญในการดำรง และสืบสันติสุขของประชาราษฎร์จังหวัดอุดรธานี จึงได้อัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดรธานี มาประดิษฐานเคียงคู่กับอาสน์ศาลหลักเมืองใหม่พร้อมกัน



พระพุทธบาทหลังเต่า 

          ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระพุทธบาทบัวบก มีลักษณะเป็นรอยพระบาทสลักลึกลงไปในพื้นหินลึกประมาณ 25 เซนติเมตร ใจกลางพระบาทสลักเป็นรูปดอกบัว กลีบแหลมนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และเนื่องจากพระพุทธบาทแห่งนี้ อยู่ใกล้กับเพิงหินธรรมชาติรูปร่างคล้ายเต่า จึงได้ชื่อว่า "พระพุทธบาทหลังเต่า"




 วัดมัชฌิมาวาส



          ตั้งอยู่ที่ตำบลหมากแข้ง ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดเดิมหรือวัดเก่า ในวิหารเล็กๆ ภายในวัดมีพระพุทธรูปหินสีขาวปางนาคปรกประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อนาค" เป็นที่เคารพสักการะของชาวอุดรธานี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ได้โปรดให้สร้างวัดขึ้นที่วัดร้างโนนหมากแข้ง และให้ชื่อว่า "วัดมัชฌิมาวาส"



ถ้ำและเพิงหินต่างๆ

           ตั้งกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณอุทยานฯ แห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ในระยะทางไม่ไกลนัก ได้แก่ ถ้ำลายมือ ถ้ำโนนสาวเอ้ ถ้ำคน ถ้ำวัวแดง (ซึ่งถ้ำเหล่านี้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่พำนักของมนุษย์สมัยหิน และมนุษย์เหล่านั้นได้เขียนรูปต่างๆ ไว้ เช่น รูปคน รูปมือ รูปสัตว์ และรูปรายเลขาคณิต  
          นอกจากนั้นยังมีลานหินที่สวยงาม คือ ลานหินโนนสาวเอ้ ธรรมชาติได้สร้างเพิงหินต่างๆ ไว้ ทำให้มนุษย์รุ่นหลังๆ ได้จินตนาการผูกเป็นเรื่องตำนานพื้นบ้าน คือ เรื่อง "นางอุสา-ท้าวบารส" เพิงหินที่สวยงามเหล่านี้ ได้แก่ คอกม้าท้าวบารส หอนางอุสา บ่อน้ำนางอุสา นอกจากนั้นยังพบชิ้นส่วนหลักเสมาและหินทรายจำหลัก พระพุทธรูปศิลปะสมัยทวาราวดี ที่เพิงหิน วัดพ่อตาและเพิงหินวัดลูกเขย
จังหวัดอุทัยธานี 

เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก 
มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ


พระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ


          
          พระบรมรูปของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ เป็นรูปหล่อขนาดสองเท่าขององค์จริงประทับนั่งบนแท่น พระหัตถ์ซ้ายถือดาบประจำตำแหน่งเจ้าพระยาจักรี ทั้งฝักวางบนพระเพลาซ้าย และทรงวางพระหัตถ์ขวาบนพระเพลาขวา  ด้านขวามือมีพานวางพระมาลาเส้าสูง ไม่มียี่ก่า (ขนนก) สวมพระบาทด้วยรองเท้าแตะไม่หุ้มส้นพระบาท มีพิธีถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์แห่งนี้ ในวันที่ ๖ เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับช่วงที่ดอกสุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำ ดอกไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานีบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปบนเขาสะแกกรัง 



เขาปลาร้า 

           
          เขาปลาร้า  เป็นเขาที่แบ่งเขตหมู่บ้านห้วยโศก อำเภอลานสัก กับตำบลเขาบางแกรก อำเภอหนองฉาง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ไปตามทางสายหนองฉาง-ลานสักประมาณ ๒๑.๕ กิโลเมตร  แล้วแยกไปตามทางคอนกรีตประมาณ ๗.๕ กิโลเมตร หรือหากมาโดยรถโดยสารสามารถนั่งรถสายอุทัยธานี-ลานสัก และต่อรถจากลานสักมาที่แยกห้วยโศก จากนั้นต่อรถจักรยานยนตร์รับจ้างเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า   เขาสูงประมาณ ๕๙๘ เมตรเป็นเขาขนาดใหญ่ มีลักษณะสูงชันมาก สภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ต้องเดินเท้าและปีนเขา ระยะทาง ๙๐๐ เมตร ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง จึงจะถึงยอดเขาและแลเห็นภูมิประเทศที่สวยงาม ข้างบนเป็นที่ราบขนาดใหญ่และมีสภาพเป็นป่ามีไม้ใหญ่ เช่น ไม้มะค่า  หน้าผาด้านตะวันตกที่ระดับความสูง ๓๒๐ เมตร พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ ๓,๐๐๐ ปี  เป็นลายเส้นสีดำและสีแดง เส้นสีดำค่อนข้างจางไปแล้ว ส่วนสีแดงยังเห็นได้อยู่ เขียนไว้ตลอดแนวยาวประมาณ ๙ เมตร  เขียนด้วยสีแดงมีกลุ่มภาพมนุษย์หลายแบบหลายลักษณะและกลุ่มภาพสัตว์ ภาพมีทั้งหมดประมาณ ๔๐ ภาพ แสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตสังคมของคนยุคโบราณ ซึ่งเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุทัยธานี


เขาวงกต


          เขาถ้ำตะพาบเป็นเขาลูกเล็กอยู่ในเขตตำบลวังหิน ห่างจากตัวจังหวัด 56 กิโลเมตร ในบริเวณเดียวกันมีถ้ำอีกหลายแห่ง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยแปลกตา ทางด้านหน้าของถ้ำได้สร้างพระพุทธรูปและจัดเป็นสังฆาวาส ส่วนถ้ำที่อยู่ด้านหลังเลี้ยวขวามือเป็นถ้ำท้องพระโรง ถ้ำแก้ว ถ้ำปราสาท และถ้ำเรือ หากเลี้ยวซ้ายจะพบทางออกด้านหลัง ซึ่งเป็นทางสู่ถ้ำลึกที่มีบันไดลงไปถึงก้นถ้ำ ผนังภายในเป็นคราบหินสีและมีหินงอกหินย้อยระยิบระยับสวยงาม ตรงอุโมงค์หลังถ้ำมีหินรูปร่างคล้ายตะพาบ และเคยพบเครื่องมือหินสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ถ้ำทุกแห่งจะมีไฟฟ้าส่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าชม
 
น้ำตกไซเบอร์หรือน้ำตกหินลาด


          น้ำตกไซเบอร์หรือน้ำตกหินลาดเป็นน้ำตกอยู่ใกล้หมู่บ้านไซเบอร์ อำเภอห้วยคต น้ำตกนี้ เกิดจากลำห้วยล่อยจ้อยที่ไหลจากภูเขาสูง ทำให้เกิดน้ำตกเป็นระยะหลายชั้น ส่วนตอนบนเรียกน้ำตกล่อยจ้อย ส่วนที่ตกปะทะหินก้อนใหญ่ เรียกน้ำตกหินลาดข้างล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่รับน้ำตก บริเวณโดยรอบเป็นป่ามีหวายและต้นไม้ร่มครึ้ม น้ำตกไซเบอร์ตั้งอยู่ห่างจาก ตัวจังหวัดประมาณ ๘๖ กิโลเมตร
 
เขาพระยาพายเรือ


          ถ้ำเขาปฐวีตั้งอยู่ตำบลตลุกดุ่ อำเภอทัพทัน ห่างจากจังหวัดประมาณ ๓๘ กิโลเมตร ลักษณะภูเขาคล้ายภูเขาหินประดิษฐ์ของจีน ที่ประดับไว้ ในกระถางลายคราม มีลานกว้างร่มเย็นด้วยร่มไม้ มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในภุเขามีถ้ำอยู่มากมาย เช่น ถ้ำประทุน ถ้ำฤาษี ถ้ำอ่าง ถ้ำช่องลม ถ้ำพุทธประวัติ ถ้ำปลาถ้ำคางคาว ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยสวยงามท่องเที่ยว gallery น้ำตกไซเบอร์หรือน้ำตกหินลาด

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554


จังหวัดเพชรบูรณ์


       เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง



@ อำเภอเขาค้อ





เขาค้อ มีชื่อเสียงในฐานะที่มีเป็นสถานที่ที่อากาศเย็นสบาย สดชื่นได้ทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่บนเทือกเขา ที่ประกอบด้วยภูเขา เนินใหญ่ เนินน้อย สลับกันไปมา สวยงาม ยอดเขาที่สูงที่สุดของเขาค้อ คือ เขาย่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเขาค้อ มีความสูง 1,290 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนยอดเขาค้อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ เขาค้อ มีความสูง 1,174 เมตร สภาพอากาศบนเขาค้อจึงค่อนข้างเย็น และเย็นจัดในฤดูหนาว และยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สถานที่ท่องเที่ยงบนเขาค้อ นอกจากจะมีความสวยงามตามธรรมชาติแล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญอย่างยิ่งทางประวัติศาสตร์ของประเทศ



อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ


 อยู่บนยอดเขาสูงสุดของเขาค้อ อยู่เลยฐานอิทธิ ไปอีก 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพในการสู้รบเพื่อปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511-2525 โดยสร้างด้วยหินอ่อนเป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 24 เมตร หมายถึง การปฏิบัติการร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหารในปี พ.ศ. 2524 ผนังภายในบันทึกประวัติอนุสรณ์สถาน และรายชื่อวีรชนผู้เสียสละไว้ด้วย



พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก


        ตั้งอยู่บนยอดเขาค้อ ติดกับสำนักสงฆ์วิชมัยปุญญาราม ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เจดีย์แห่งนี้ชาวเพชรบูรณ์สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ในวันสำคัญทางศาสนา



หอสมุดนานาชาติเขาค้อ


ตั้งอยู่ที่เดียวกับเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ออกแบบเป็นรูปเพชรคว่ำ สร้างด้วยกระจกสะท้อนแสง ภายในเก็บรักษาหนังสือทั้งภาษาไทยและ ภาษาต่างประเทศ ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงาน วันนัดพบเอกอัครราชทูต ณ เขาค้อโดยเชิญเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ มาร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด 



พระตำหนักเขาค้อ

            
           ตั้งอยู่บนเขาย่า พระตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดำริ และทรงตรวจเยี่ยมราษฎรอำเภอเขาค้อและอำเภอใกล้เค เป็นอาคารคอนกรีตครึ่งวงกลมมีทั้งหมด 15 ห้อง รูปทรงแปลกตาไปจากพระตำหนักอื่น สามารถขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าชมบริเวณโดยรอบพระตำหนัก 



เขาค้อทะเลหมอก


       
        เขาค้อทะเลหมอก รีสอร์ท อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์  ที่ที่คุณจะสัมผัสได้ถึง กลื่นอายของธรรมชาติอย่างแท้จริง ยามเช้าคุณสามารถสัมผัสกับ ทะเลหมอกที่สวยงามปกคลุมทั่วอ่างเก็บน้ำรัตนัย เสมือนท่านอยู่เหนือทะเลหมอก  ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกดิน ทอแสงสีแดงส่องทั่วฟ้าก่อนลับตาไป ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดของเขาค้อ 







ร้านกาแฟ KHO IN LOVE


เอกลักษณ์ของร้าน ค้ออินเลิฟ คือการผสมผสานกลิ่นอายวิถีไทย วิถีชีวิตแบบ ชาวบ้าน และชาวเขาบนเขาค้อ ให้เข้ากับเสน่ห์ความเป็นอยู่แบบไทยๆ การวางมุมน่ารักๆ ไว้มากมาย ดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ และวิวมุมสูงจากเนินเขา มองลงไปยังหุบเขาที่สลับซับซ้อนอยู่เบื้องล่าง ร้านกาแฟ เป็นมุมเล็กๆ ที่คอยต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้า จอดรถปั๊บ ก็เดินเข้าร้านได้ทันที มีมุมเล็กๆ ไว้นั่งจิบกาแฟ ให้คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ในร้านมีบาริสต้าหนุ่มคอยบริการ ชงกาแฟรสดีเตรียมไว้ให้ 
บรรยากาศริมเนินเขาสามารถมองมุมกว้าง ผ่านรั้วไม้ไผ่ ทุ่งหญ้า คอกแกะ ไปยังเนินเขาสลับซับซ้อน จนถึงภูเขาลูกใหญ่เบื้องหน้า คือผาซ่อนแก้ว ภูเขาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อ


วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

จังหวัดแม่ฮ่องสอน 


              หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดีประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง  


@ อำเภอปาย

ปาย เมืองเล็ก ๆ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ มีแม่น้ำไหลผ่านตัวเมืองปาย ธรรมชาติ อากาศอันบริสุทธิ์ ลมหนาวที่พัดมาในช่วงปลายปี ดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดที่ผลิบานต้อนรับความหนาวเย็น เป็นสิ่งดึงดูดให้นักเดินทางหลั่งไหลมาเยือนเมือง ปาย กันอย่างไม่ขาดสาย ทั้ง ๆ ที่ ปาย เป็น เพียงแค่เมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน ที่ใช้เวลาเดินเพียงแค่วันเดียวก็เที่ยวทั่วทุกที่แล้ว แต่ทว่า ผู้คนมากมายที่มาเยือน ปาย หลายคน ที่ต้องกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง บางคนอาจต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอีกซีกโลก เพื่อมาเยือนเมือง ปาย เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้  




สะพานประวัติศาสตร์(สงครามโลกครั้งที่2) ท่าปาย 



            สะพาน ประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ญี่ปุ่นมีเรืองอำนาจอยู่ในประเทศไทย โดยมีวัตถประสงค์เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพล และอาวุธสู่พม่าเช่นเดียวกัน กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว
            เป็นสะพานที่สวยมาก นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว ปาย ก็ต้องแวะชม แวะถ่ายภาพกับสะพานประวัติศาสตร์นี้ เพื่อให้รู้ว่าถึง ปาย แล้ว  



ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนา บ้านสันติชล อ.ปาย 


          
             หมู่ บ้านเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมยูนาน ซึงมีบ้านดิน ที่ตั้งเรียงรายอยู่ ร้านค้าของที่ระลึกที่ทำจากบ้านดิน อาคารร้านอาหารจีนยูนาน และมีก้อนหิน สลักชื่อภาษาจีนตัวใหญ่ๆ วางเด่นเป็นสง่าด้าน หน้าศูนย์ฯ มีจุดสะดุดตา คือ ชิงช้า ที่ดูคล้ายชิงช้าสวรรค์ ที่ทำจากไม้ 



           หมู่บ้านแห่งนี้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รูปทรงบ้านไม่เป็นเหมือน ข้างนอกดูสวยงาม แต่ข้างในสวยมากกว่า บรรยากาศก็ดี และมีของที่ระลึกให้เราเลือกซื้อมากมาย ซึ่งของที่ระลึกเหล่านี้ เป็นของที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง



ถนนคนเดิน ปาย

            ทุกคืน ในอำเภอปาย จะมีการปิดถนน เป็นถนนคนเดิน เพื่อให้ชาวเมืองปาย มาวางแผงขายของที่ระลึกจากอำเภอปาย รวมไปถึงเครื่องประดับ และสินค้าต่าง ๆ ถนนคนเดิน ปาย นั้นเริ่มจาก การวางแผงสินค้าที่ระลึกเล็ก ๆ ของชาวบ้านในอำเภอปาย และสินค้าพื้นเมืองประเภทหัตถกรรมต่าง ๆ ของชาวเขา ซึ่งในอดีต ไม่ได้มีนักท่องเที่ยว และร้านต่าง ๆ มากมายเหมือนปัจจุบัน ในอดีตแผงแบกะดินส่วนใหญ่ จะอาศัยแสงไฟจากไฟถนน หรือหากเป็นร้านของชาวเขาเผ่าต่าง ๆ บางครั้งก็อาศัยแสงเทียนที่จุดขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ และมีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวนเพียงร้อยเศษ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ



ร้านกาแฟ Coffee in love



             " ร้านเด่นร้านดังใน พ.ศ. นี้ คงไม่มีใครเกิน ร้านกาแฟ Coffee in love แห่ง อ.ปาย " ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะที่ ปาย ใครได้มาแล้วไม่ได้แวะร้านนี้ก็เหมือนกับมาไม่ถึง อ.ปาย อย่างน้อยๆผู้ที่มา อ.ปาย ควรต้องแวะชิมกาแฟ และถ่ายรูปที่นี่กันสักใบสองใบ เอาไว้ไปอวดเพื่อนๆว่า "นี่ฉันไปเที่ยวปายมาแล้ว" เช่นกันครับ ปีนี้หมูหินมาที่ อ.ปาย ก็ไม่พลาดที่จะแวะที่ร้านนี้เหมือนกันบรรยากาศเย็นๆสบายไม่หนาวมาก ภายในร้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นของกาแฟ ผ้าปูโต๊ะก็ใช้สีแดงสดใส มองเห็นวิวไกลๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้มันทำให้ทำให้การจิบกาแฟมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น




 
กิจกรมที่น่าสนใจ

งานมหกรรมดนตรีเรกเก้แอนด์สกา ครั้งที่5 (ปาย)
          
            อำเภอ ปาย แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก เพื่อสัมผัสเสน่ห์แห่งธรรมชาติ วัฒนธรรมผสมผสานความ โรแมนติกและเสียงดนตรีทำให้ อำเภอปายมีเอกลักษณ์ของ ตนเอง จากกระแสความนิยมการท่องเที่ยว ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของอำเภอปายและ เพื่อสร้างสีสันให้แก่นักท่องเที่ยว ศิลปินลุ่มน้ำปาย (Pai Arts Club) ร่วมกับภาคเอกชนและอำเภอปายได้กำหนดจัดงานมหกรรมดนตรีเรกเก้แอนด์สกาครั้ง ที่ 5”  (Chang Reggae fest @ Pai 2010 @ Coffee in Love) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกและใส่ใจในการอนุรักษ์สิ่ง แวดล้อม


มหกรรม ดนตรีเรกเก้แอนด์สกาครั้งที่ 5” (Chang Reggae fest @ Pai 2010 @ Coffee in Love) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 มกราคม 2553 บริเวณลานคอฟฟี่ อิน เลิฟ โดยมีศิลปินเรกเก้และสกาชั้นนำทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้าร่วมบรรเลงบทเพลง อาทิเช่น T-BONE , KAI-JO BROTHER , TEDDY SKA , AZTONAPAI (GREECE), IMPULSE BAND(The African band), และนักร้อง นักดนตรีทั้งไทย และต่างชาติอีกคับคั่งเข้าร่วมสร้างสีสัน เช่น Indy Handy, Vintage, Cowboy Indian
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง มอเตอร์ไซด์โบราณ Classic bike จากสงครามโลกครั้งที่ 2 (world war II), American classic car, photo arts, gallery, artisan market, fire show และ พบกับศิลปิน INDY อีกมากมายและส่งเสริมกลุ่มคนสร้างงานฝีมือ ให้มีโอกาสแสดงผลงานทางศิลปะ การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกเพื่อต่อสู้ภาวะโลกร้อน(combat global warming)โดยร่วมกิจกรรมปลูกกล้วยช่วยโลก(Banana bank) เพื่อสร้างความชุ่มชื้นแก่ผิวดินป้องกันไฟป่าหมอกควัน ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ห้ามพลาดกับมหากรรมดนตรีเรกเก้แอนด์สกาสุด ยิ่งใหญ่ สิ้นสุดการรอคอยสำหรับบรรดาสาวกเพลง เรกเก้กับมหกรรมดนตรีเรกเก้แอนด์สกา ครั้งที่ 5”(Chang Reggae fest @ Pai 2010 @ Coffee in Love) ระหว่างวันที่ 29 – 30 มกราคม 2553 ณ ลานคอฟฟี่อินเลิฟ บัตร ราคา 350 บาท 1 วันและ 500 บาท 2 วันจำหน่ายบัตรบริเวณหน้างานเท่านั้น